“หลักทรัพย์บัวหลวง” ชวนลดหย่อนภาษีปี 64 ด้วย “กองทุน SSF และ RMF” ผ่าน 4 ธีมหลัก

0 Comments

หลักทรัพย์บัวหลวง แนะบริหารจัดการด้านภาษี พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 64 ด้วย “กองทุน SSF และ RMF” เน้นลงทุนใน 4 ธีมหลักคือ “กองทุนผสม, กองทุนหุ้นเทคโนโลยี,กองทุนหุ้นทั่วโลก และกองทุนหุ้นเวียดนาม” ตามคำแนะนำใน BLS Top Funds รายงานอัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลก พร้อมคำแนะนำ “กองทุนตัวท็อป” จาก 18 บลจ. ที่ส่งตรงถึงมือผู้ลงทุนเป็นประจำทุกสัปดาห์

นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการ ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 ยังคงไปต่อได้ โดยมีหลากหลายปัจจัยสนับสนุนเช่น ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น จากความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้หลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในทวีปยุโรป, สหรัฐฯ หรืออินเดีย เป็นต้น ขณะที่รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศ ยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสหรัฐฯ เห็นได้จากการที่ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นำเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ “อเมริกัน จอบส์ แพลน” (American Jobs Plan) เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว

โดยในช่วงที่เหลือของปี 2564 แนะนำผู้ที่กำลังวางแผนการลดหย่อนภาษีปี 2564 หรือต้องการสร้างเงินออมจากการลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ในระยะยาว หาจังหวะเข้าลงทุน “กองทุนรวมเพื่อการออม” (กองทุน SSF) หรือ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (กองทุน RMF) โดยผู้ที่มีอายุไม่เกิน 45 ปี ควรเลือกลงทุนใน กองทุน SSF ให้เต็มที่ก่อน เพราะใช้ระยะเวลาในการลงทุนสั้น 10 ปี, ไม่กำหนดขั้นต่ำในการลงทุน ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น,ลงทุนสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท และเมื่อรวมกับกองทุน RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), ประกันบำนาญ, กบข., กอช. เป็นต้น ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท แต่ถ้าอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ควรเลือกลงทุนในกองทุน RMF เนื่องจากจะขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่ออายุ 55 ปี และไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน แต่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี เมื่อครบเงื่อนไขสามารถขายได้ทั้งหมดที่ลงทุนมา ทำให้ถือลงทุนน้อยกว่า 10 ปี

“การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ นอกจากผู้ลงทุนจะต้องจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับช่วงอายุแล้วยังต้องพิจารณาถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงด้วย เช่น หากเป็นคนรับความเสี่ยงได้ปานกลาง ก็ควรเลือกกองทุนผสมที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว หรือหากต้องการวางแผนเกษียณ ผ่านการลงทุนระยะยาว แต่ไม่มีเวลาดูแลพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงอายุ ก็ควรเลือกลงทุน กองทุนประเภท Target Date Fund ที่เน้นลงทุนในระยะยาว เพื่อการเกษียณอายุ”

นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ รายงาน BLS Top Funds แนะนำ กองทุน SSF และ RMF ตัว TOP เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2564 จำนวน 4 รูปแบบคือ 1.รูปแบบ “กองทุนผสม” ที่มีความเสี่ยงระดับปานกลาง โดยแนะให้ลงทุนใน “กองทุน BCAP GW75SSF” หรือ “กองทุน BCAP-2040RMF” ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ในและนอกประเทศ,ตราสารทุนในและนอกประเทศ และสินทรัพย์ทางเลือก 2.รูปแบบ “กองทุนหุ้นเทคโนโลยี”ที่มีความเสี่ยงระดับสูง โดยแนะ “กองทุน KKP TECH-H-SSF” ที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่กำลังเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และ “กองทุน B-INNOTECHRMF” ที่ลงทุนในหุ้นเทคฯ คุณภาพดีทั้งแอปพลิเคชันให้บริการออนไลน์, Semiconductor และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก

3. รูปแบบ “กองทุนหุ้นทั่วโลก” ที่มีความเสี่ยงระดับสูง แนะ “กองทุน KFGGSSF” เพราะเชื่อว่าหุ้นเติบโตจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว และ “กองทุน KCHANGERMF” ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านการศึกษาด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม 4.รูปแบบ “กองทุนหุ้นเวียดนาม” ที่มีความเสี่ยงระดับสูง เราแนะ “กองทุน ASP-VIETRMF” ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะได้ประโยชน์จากโอกาสเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนาม และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกลับมาขยายตัวเฉลี่ย 6-7% ต่อปี อีกครั้งในปี 2565

สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจรับ BLS Top Funds รายงานอัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกแบบ Weekly พร้อมคำแนะนำ “กองทุนตัวท็อป” คุณภาพดี ผลงานเด่น กว่า 22 ประเภท จาก 18 บลจ. และการจัดพอร์ตกลยุทธ์เชิงเทคนิค (Tactical Funds Portfolio) จากทีมงานมืออาชีพมากประสบการณ์ที่มาแนะนำให้ลูกค้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพียงเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอนที่ www.bualuang.co.th/funds ส่วนลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง เลือกเมนู “Mutual Funds” เลือกข้อมูลกองทุนและเลือกหัวข้อ “BLS Top Funds” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 0-2618-1111